สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้ผมมีเรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟังกันครับ แต่คิดว่าคงขอเขียนสัก 2 ตอนละกันนะครับ ตอนแรกนี้ อยากเขียนให้เห็นภาพรวมของการจัดสัมมนาในครั้งนี้นะครับ อาจมีปะปนความรู้สึกนึกคิดบ้าง แต่ในตอนที่ 2 นั้น คงจะเป็นเรื่องของความประทับใจ ที่ได้รับจากการอบรมในครั้งนี้ครับ ตามอ่านดูนะครับทั้ง 2 ตอน แล้วจะพบว่า ทางคณะผู้จัดนั้นเขา สร้างความประทับใจให้กับผมอย่างไร ตามคอร์ส Surprise จริงๆ ครับ
คงต้องเริ่มจาก ผมอยากออกจากบ้านประมาณ 11.30 น. ปรากฏว่ามีงานด่วนแทรก จึงต้องออก 12.00 น. โอเคหน่ะ จากบางบัวทองไปปั๊มเชลล์หัวถนนวิภาวดี ทันแน่นอน เหตุการณ์หวาดเสียวก็มาแล้วครับ คนดูแลติดตามผมก็พูดขอร้อง "พี่ต๋อง หนูขอเข้าห้องน้ำหนักได้ไหมค่ะ" แล้วจะไม่ได้ยังไงละครับ จึงให้ คนขับ TAXI หาปั๊มให้แถวๆ ก่อนข้ามสะพานพระนั่งเกล้าครับ น่าจะปั๊มบางจาก
พอเข้าลงทางยกระดับข้ามถนนวิภาวดีถึงทางเข้าเขตจตุจักร คนขับรถ TAXI เอาบ้าง "เฮีย ขอผมเข้าห้องน้ำหนักหน่อยได้ไหมครับ" ผมก็........เอาเลย เข้าก็เข้า ไม่เป็นไรใจเย็นๆ ............เอ้อ เหอ มาถึงอาคารของมหิดล 13.00 น. เป๊ะเลยครับ ขลุกขลักนิดหน่อยครับ เพราะทางเข้าไม่มีทางลาด มาถึงชั้น 5 ทีมงานผู้จัดก็ให้ลัดคิวไม่ต้องลงทะเบียน ให้มาที่ห้องเลยครับ (ขอบคุณตรงนี้อีกที ละกันนะครับ)
ถึงเวลาแล้วงานเริ่ม
ตามความรู้สึกผม คุณวัฒนา ปรีเปรม เหมือนเป็นพิธีกรครับ เพียงแต่บทบาทอาจจะน้อยไปสักนิด แต่ก็เข้าใจนะครับ เพราะว่าทุกท่านมีทักษะการพูดดีอยู่แล้ว สามารถส่งต่อแต่ละช่วงกันได้เองเลย เพราะผมกับพี่ไพบูลย์ก็เคยจัดสัมมนาให้กับกระทรวงแรงงาน และ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาฯ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ นั้นพิธีกรจะมีบทบาทมากเพราะว่า วิทยากรแต่ละท่านไม่ถาม ก็ไม่ตอบ ไม่พูด
วิทยากรช่วงแรกทั้ง 3 ท่าน (ซ้ายมาขวา) คุณภาคิณ ศรีย์บศย์ดี คุณวัชราภรณ์ เปรมประวัติ คุณสุมมนา ฉันทอาภา ทั้ง 3 ท่านเก่งมากเลยนะครับ ทำให้นึกย้อนไปถึงการเตรียมงานของทั้งทีม จบวันนี้คงผ่อนคลายกันเยอะเลย เป็นกำลังใจให้ครับ
อยากให้ทั้งทีมงานทราบเลยนะครับว่า จริงๆ พรุ่งนี้ผมมีงานสำคัญตอนเช้า และช่วงบ่ายต้องไปงาน ignite Thailand ครั้งที่ 3 จัดที่โรงหนังสกาล่า ซึ่งต้องนอนเร็ว แต่ตั้งใจเลยว่า ดึกแค่ไหนก็จะพิมะ์บทความนี้ให้เสร็จให้ได้ เพื่อพรุ่งนี้ทุกท่านจะได้อ่านบทความนี้กันเลย จะได้ปลื้มต่อเนื่องนะครับ ตั้งใจพิมพ์ให้เป็นพิเศษนะครับ
ชอบวิทยารรับเชิญทั้ง 2 ท่านมากนะครับ ทั้งคุณชาลี และคุณตุลชัย ขอบคุที่คุณชาลี เล่าประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มากมาย เวลาเท่านี้ไม่พอกับประสบการณ์ดีๆ น่าประทับใจของคุณชาลี แต่ก็เข้าใจกันนะครับ เวลาจำกัด ขอบคุณคุณตุลชัย มากๆ ที่ทำให้การสัมมนาผ่านไปด้วยดี คุณตุลชัย นั้นเป็นคนที่เอาใจใส่คนรอบข้าง อย่างแน่นอน เพราะว่าปรับตัวให้เข้ากับการสัมมนานี้อย่างยอดเยี่ยมนะครับ ทำให้การันตีสิ่งที่คุณตุลชัยพูดได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะพูดน้อย แต่นั่นเพราะคุณตุลชัยแคร์ทุกคนเลยครับ ปรบมือให้ดังๆ นะครับ
โดยภาพรวมนั้น ผมคิดว่า ยอดเยี่ยมมากนะครับ เพราะผมก็ไปสัมมนาบ่อยๆ ทุกท่านไหลลื่นมาก คิดว่าคงซักซ้อมมามาก เพราะว่าไม่มีขาดช่วง แต่ลึกๆ คงมีการแก้ปัญหาเฉพาะกันบ้างอยู่แล้ว เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ทีมงานที่จัดเลยนะครับ สงสัยว่า ผมคงต้องเป็นแฟนติดตามงานสัมมนาของทาง CMMU อย่างต่อเนื่อง ยังไงก็รบกวนทางผู้เกี่ยวข้อง ถ้ามีคอร์สอะไร ก็ส่งมาบอก อย่างต่อเนื่องนะครับ ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ เพิ่มประสบการณ์ตัวเองไปได้เรื่อยๆ ครับ
ผมสามารถนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดได้อย่างแน่นอนนะครับ มีโอกาสก็จะอีเมล์ไปแจ้งทางอีเมล์ที่เคยติดต่อกันนะครับ เพราะก็อยากให้ชื่นใจ ดีใจ ร่วมกันครับ
สำหรับโครงการที่ผมจะนำความรู้ที่ได้รับไปใช้นั้น ผมจะไปปรับใช้ในการจัดอบรมให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากเลย กับ case study ทั้งในไทย และต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จจากการทำ Surprise Marketing ซึ่งเป้าหมายของโครงการผม คือ เราจะมุ่งเน้นไปที่ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ Special Needs People โดยการทำงานผ่าน Framework ของ Google Response และการจัดอบรมจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มสถานประกอบการครับ ที่ต้องให้บริการกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ที่มีมากกว่า 1,500 ล้านคนทั่วโลก
ในตอน 2 ผมอยากเขียนถึงแต่ละจุดของความประทับใจละกันนะครับ ซึ่งคงต้องเตรียมบทความสนับสนุน หลายบทความหน่อยนะครับ อดใจอ่านอีกนิดนะครับ ขอไปทำงานให้กับสังคมอีก 3 งานแล้วจะแว๊บมาเขียนสัปดาห์หน้าครับ
ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ
ขอบคุณคุณปรีดาสำหรับบทความและแรงบันดาลใจให้พวกเรานะครับ
ตอบลบอ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจที่จะทำงานกันต่อเพิ่มขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
ยังไงพวกเรายังคอยติดตามตอนที่2 อยู่นะครับ
ทีมงาน Surprise Marketing, CMMU