สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน บทความนี้ผมขอวกกลับไปที่กลุ่มพี่ๆ น้องๆ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ลงสมัคร ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ทั้ง 3 ท่าน 3 เขต และมีแนวทางในการหาเสียงแตกต่างจากผู้สมัครของพรรคการเมืองอื่น ตรงที่ ไม่ได้ไปลุยหาเสียงสวัสดีญาติพ่อแม่พี่น้อง ยกมือไหว้ แจกบัตรแนะนำตัว พูดคุยสารทุกข์สุกดิบ อาจมีคุยให้ความหวังบ้าง แล้วก็จากไป บางคนอาจพบกันครั้งเดียวในชีวิตก็ได้ เพราะมาหาเสียงแล้วไม่ผ่านก็หยุดไปเลย
แต่ทั้ง 3 ท่านของกาฬสินธุ์ กลับใช้โอกาสนี้ ไปช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อน โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มีอาการเจ็บป่วยจนมีความพิการ แต่ไม่มีใครพาไปหาหมอ เพื่อขอใบรับรองความพิการ และพาไปทำบัตรคนพิการ เพราะบัตรคนพิการหมายถึง สิทธิประโยชน์มากมายที่ผู้สูงอายุเหล่านี้จะได้รับ เพิ่มเติม นอกจากการได้สิทธิของผู้สูงอายุ เช่น เบี้ยยังชีพ จะได้เพิ่มไปเลย 2 เบี้ย คือ เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ เป็นต้น ดังนั้น ในตอนท้ายของบทความนี้ ผมจะเชื่อมโยงความรู้การเลือกตั้ง เข้ากับความรู้ของผู้สูงอายุ ไปพร้อมๆ กัน และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน และทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ครับ
ในบทความตอนที่ 5 คุณอรสา วงษา (เขต 1 เบอร์ 6) คุณพิชชานันท์ ผลวาด (เขต 2 เบอร์ 10) คุณฐานิดา อนุอัน (เขต 3 เบอร์ 2) ได้ตะลุยพื้นที่หาเสียงด้วยการพาผู้สูงอายุไปหาหมอและขึ้นทะเบียนขอรับบัตรคนพิการที่สุดยากเย็นจนสำเร็จ และยังคงทำต่อเนื่อง ในตอนที่ 10 นี้ ผมจึงอยากนำมาแบ่งปันผู้อ่านกันอีกรอบ แบบให้ความรู้ไปด้วยในตัว โดยทั้ง 3 ท่านพาผู้สูงอายุ ไปตรวจที่โรงพยาบาล และก็พาไปรับบัตรที่ พมจ.กาฬสินธุ์ ทั้งหมด 4 ผู้เฒ่า ดังนี้ครับ
ส่วนตัวขอชื่นชม และขอให้ยึดมั่นในแนวทางนี้นะครับ ทั้ง 3 ท่าน ยังเป็นประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการจังหวัดกาฬสินธุ์ (คุณฐานิดา อนุอัน) และรองประธานฯ ทั้ง 2 ท่าน (คุณอรษา วงษา และคุณพิชชานันท์ ภูแป้ง) และคอยช่วยเหลือคนกาฬสินธุ์มาโดยตลอด ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องคนพิการ ทั้ง 3 ท่าน จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ระดับจังหวัด ที่มีคุณภาพคับแก้ว ของพรรคประชาชนปฏิรูป
สำหรับความรู้ช่วง "เลือกตั้งฟังทางนี้": ตอนนี้ผมขอให้ความรู้เรื่องผู้สูงอายุ ที่ในปี 2562 นี้ เรามีผู้สูงอายุถึงมากกว่า 12 ล้านคน อาจจะน้อยกว่าช่วงวัย 35-50 ปี ที่มีมากถึง 15 ล้านคน อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในประเทศไทย มีคนพิการ ประมาณ 2 ล้านคน และเป็นผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนคนพิการ 50% คือ 1 ล้านคน หมายความว่า ยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนคนพิการ เช่น 4 ผู้เฒ่า ที่กลุ่มผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ ทั้ง 3 ท่าน พาไปหาหมอและขึ้นทะเบียนคนพิการ ซึ่งทั้ง 4 ผู้เฒ่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากสิทธิคนพิการ หากผู้สมัคร ส.ส. ทุกๆ ท่าน ทำแบบเดียวกันกับที่ คุณฐานิดา อนุอัน คุณอรษา วงษา และคุณพิชชานันท์ ภูแป้ง ทำ หลังเลือกตั้ง คงมีคนพิการที่เป็นผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกเป็นแสนราย ซึ่งจะเป็นการบรรเทาทุกข์ร้อนของผู้เฒ่าตามต่างจังหวัดได้อย่างแน่นอน
ผมหวังว่าสาระเล็กๆ น้อยๆ ในบทความตอนนี้ คงพอมีบางสิ่งบางอย่างกระตุกให้ผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศ ได้มีแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อน ดังเช่น ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ ของพรรคประชาชนปฏิรูป ทั้ง 3 ท่าน ได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ ร่วมด้วยช่วยกัน ประเทศไทยจะได้ถูกยกระดับขึ้นครับ
ด้วยความนับถือ
ขอบคุณครับ
แต่ทั้ง 3 ท่านของกาฬสินธุ์ กลับใช้โอกาสนี้ ไปช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อน โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มีอาการเจ็บป่วยจนมีความพิการ แต่ไม่มีใครพาไปหาหมอ เพื่อขอใบรับรองความพิการ และพาไปทำบัตรคนพิการ เพราะบัตรคนพิการหมายถึง สิทธิประโยชน์มากมายที่ผู้สูงอายุเหล่านี้จะได้รับ เพิ่มเติม นอกจากการได้สิทธิของผู้สูงอายุ เช่น เบี้ยยังชีพ จะได้เพิ่มไปเลย 2 เบี้ย คือ เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ เป็นต้น ดังนั้น ในตอนท้ายของบทความนี้ ผมจะเชื่อมโยงความรู้การเลือกตั้ง เข้ากับความรู้ของผู้สูงอายุ ไปพร้อมๆ กัน และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน และทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ครับ
ในบทความตอนที่ 5 คุณอรสา วงษา (เขต 1 เบอร์ 6) คุณพิชชานันท์ ผลวาด (เขต 2 เบอร์ 10) คุณฐานิดา อนุอัน (เขต 3 เบอร์ 2) ได้ตะลุยพื้นที่หาเสียงด้วยการพาผู้สูงอายุไปหาหมอและขึ้นทะเบียนขอรับบัตรคนพิการที่สุดยากเย็นจนสำเร็จ และยังคงทำต่อเนื่อง ในตอนที่ 10 นี้ ผมจึงอยากนำมาแบ่งปันผู้อ่านกันอีกรอบ แบบให้ความรู้ไปด้วยในตัว โดยทั้ง 3 ท่านพาผู้สูงอายุ ไปตรวจที่โรงพยาบาล และก็พาไปรับบัตรที่ พมจ.กาฬสินธุ์ ทั้งหมด 4 ผู้เฒ่า ดังนี้ครับ
- คุณยายแหลม วังหอม อายุ 82 ปี พิการหูหนวก
- คุณตา พา หล่าศรี อายุ 65 ปี หูหนวก
- คุณตา คำบู่ ภูแล่นคู่ อายุ 63 ปี กระดูกทรุด
- คุณยาย หลาว ชัยมาตร์ อายุ 75 กระดูกไขข้อเสื่อม
จนได้รับบัตรคนพิการทั้ง 4 คน ครบ เสร็จภารกิจตามที่ตั้งใจไว้ ท้ายที่สุดแล้ว ในทรรศนะของผม ผมเห็นว่า แม้ว่าผลการเลือกตั้งในจังหวัดกกาฬสินธุ์ จะเป็นอย่างไรไม่รู้ ผมรู้แต่เพียงว่า อุดมการณ์ของพรรคประชาชนปฏิรูป บรรลุวัตถุประสงค์แน่นอน เพราะเป็นการช่วยเหลือให้ผู้เฒ่าผู้แก่ ปลดจากความทุกข์ ทำแม้ว่าจะยังไม่ได้เป็น ส.ส. และก็ยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรอให้เป็น ส.ส. เสียก่อน เหมือนพรรคอื่นๆ ที่บอกว่า ถ้าได้เป็นถึงจะทำ
(ซ้ายไปขวา) คุณฐานิดา อนุอัน คุณยายแหลม วังหอม คุณตาพา เหล่าศรี |
(ซ้ายไปขวา) คุณฐานิดา อนุอัน คุณยายหลาว ชัยมาตร์ คุณตาคำปู ภูแล่นคู่ |
ส่วนตัวขอชื่นชม และขอให้ยึดมั่นในแนวทางนี้นะครับ ทั้ง 3 ท่าน ยังเป็นประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการจังหวัดกาฬสินธุ์ (คุณฐานิดา อนุอัน) และรองประธานฯ ทั้ง 2 ท่าน (คุณอรษา วงษา และคุณพิชชานันท์ ภูแป้ง) และคอยช่วยเหลือคนกาฬสินธุ์มาโดยตลอด ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องคนพิการ ทั้ง 3 ท่าน จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ระดับจังหวัด ที่มีคุณภาพคับแก้ว ของพรรคประชาชนปฏิรูป
สำหรับความรู้ช่วง "เลือกตั้งฟังทางนี้": ตอนนี้ผมขอให้ความรู้เรื่องผู้สูงอายุ ที่ในปี 2562 นี้ เรามีผู้สูงอายุถึงมากกว่า 12 ล้านคน อาจจะน้อยกว่าช่วงวัย 35-50 ปี ที่มีมากถึง 15 ล้านคน อีกข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในประเทศไทย มีคนพิการ ประมาณ 2 ล้านคน และเป็นผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนคนพิการ 50% คือ 1 ล้านคน หมายความว่า ยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนคนพิการ เช่น 4 ผู้เฒ่า ที่กลุ่มผู้สมัคร ส.ส. กาฬสินธุ์ ทั้ง 3 ท่าน พาไปหาหมอและขึ้นทะเบียนคนพิการ ซึ่งทั้ง 4 ผู้เฒ่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากสิทธิคนพิการ หากผู้สมัคร ส.ส. ทุกๆ ท่าน ทำแบบเดียวกันกับที่ คุณฐานิดา อนุอัน คุณอรษา วงษา และคุณพิชชานันท์ ภูแป้ง ทำ หลังเลือกตั้ง คงมีคนพิการที่เป็นผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกเป็นแสนราย ซึ่งจะเป็นการบรรเทาทุกข์ร้อนของผู้เฒ่าตามต่างจังหวัดได้อย่างแน่นอน
ด้วยความนับถือ
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น