สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีนัดกับเจ้านายเก่า ที่เรามักจะนัดทานข้าวกันมานานแล้ว ตั้งแต่รู้จักกับอาจารย์ก็ 19 ปีแล้วครับ ครั้งนี้นัดทานข้าวกันที่โลตัส ศาลายา เพราะมีเหตุผลว่า อาจารย์เคยเป็น Consultant ด้านการประหยัดพลังงานอาคารให้กับที่นี่ ซึ่งผมควรจะมาที่นี่ตั้งแต่ 4-5 ปีก่อนแล้วครับ ที่นี่มีการออกแบบเกกี่วกับถนนและทางลาดดี มีที่จอดรถคนพิการที่ใกล้กับทางเข้าอาคาร ไล่ระดับการเชื่อมกันถนนได้ดี (พอดีกว่าครับ.....เดี๋ยวจะกลายเป็นบทความสำรวจการเข้าถึงไป)
ผมมาถึง อาจารย์ก็มาถึงพอดี อาจารย์จึงพาไปดูโซนนิทรรศการที่มีรายละเอียดของการประหยัดพลังงาน อาจารย์เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ เพราะที่นี่เป็นอาคารที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดในโลกในกลุ่มของห้างสรรพสินค้าทุกประเภท เนื่องจากมีการประหยัดพลังงานถึง 30%
ผมทานข้าวกับอาจารย์ เราพูดคุยกันเกือบสองชั่วโมง อย่างสนุนสนานด้วยสัมพันธภาพที่ดี ซึ่งมีให้กันมาตลอดเวลา แต่เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีธุระ จึงต้องแยกกัน ก่อนกลับก็ถ่ายภาพร่วมกันที่หน้าทางเข้า และมี Land Mark ที่เป็นป้ายโลตัสประหยัดพลังงาน+กังหันลม
เป็นอีกวันที่มีความสุขครับ ในอนาคตอีกไม่นานผมคงได้มีโอกาสร่วมงานกับอาจารย์อีก ผมคิดอย่างนั้นนะครับ
ผมมาถึง อาจารย์ก็มาถึงพอดี อาจารย์จึงพาไปดูโซนนิทรรศการที่มีรายละเอียดของการประหยัดพลังงาน อาจารย์เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ เพราะที่นี่เป็นอาคารที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดในโลกในกลุ่มของห้างสรรพสินค้าทุกประเภท เนื่องจากมีการประหยัดพลังงานถึง 30%
ผมทานข้าวกับอาจารย์ เราพูดคุยกันเกือบสองชั่วโมง อย่างสนุนสนานด้วยสัมพันธภาพที่ดี ซึ่งมีให้กันมาตลอดเวลา แต่เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีธุระ จึงต้องแยกกัน ก่อนกลับก็ถ่ายภาพร่วมกันที่หน้าทางเข้า และมี Land Mark ที่เป็นป้ายโลตัสประหยัดพลังงาน+กังหันลม
ที่จอดรถคนพิการ
อาจารย์กำลังอธิบายให้ผมฟัง
ระบบกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า
การออกแบบหลังคาที่มีการทำ Simulation แล้วได้ผมออกมาว่า
ต้องเปิดช่องแสงเพียง 5% จึงเหมาะสม และที่นี่จึงเป็นต้นแบบ
ให้กับอีกหลายอาคารในลักษณะห้างสรรพสินค้าครับ
กังหันลมที่เป็น Land Mark ของที่นี่ครับ
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกครับ
เป็นอีกวันที่มีความสุขครับ ในอนาคตอีกไม่นานผมคงได้มีโอกาสร่วมงานกับอาจารย์อีก ผมคิดอย่างนั้นนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น